ขับรถไปเที่ยวอย่างไรไม่ให้ปวดหลัง

1. เลื่อนระยะห่างเบาะนั่งให้พอดี ให้คุณเลื่อนระยะห่างเบาะให้พอดีก่อน เพื่อสามารถเหยียบเบรก และคันเร่งได้ถนัด

 

2. เอนพนักพิงเพียงเล็กน้อย

ปรับพนักพิงให้เหมาะสมกับตัวเรา เหยียดหลังตรงจนแผ่นหลังแนบชิดกับพนักพิง ซึ่งท่านั่งขับรถทางไกลที่ถูกต้องควรทำมุมประมาณ 110 องศา จะเป็นระดับพอดีกับช่วงกระดูกสันหลังจึงทำให้คุณรู้สึกสบาย ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ แล้วตรงบริเวณต้นขาก็ควรจะสัมผัสกับที่นั่งทั้งหมด เพื่อรองรับน้ำหนักตัวคุณ

 

3. ปรับเบาะให้มองเห็นทางข้างหน้า แนะนำให้ปรับความสูงโดยเว้นระยะห่างศีรษะกับเพดานรถ ประมาณหนึ่งกำปั้น หรือความกว้างขนาดฝ่ามือ ก็จะช่วยทำให้คุณมองเห็นทาง และขับรถทางไกลแบบสบายมากขึ้น

 

4. ปรับระยะห่างพวงมาลัยให้เหมาะสม ต้องอยู่ในช่วงที่สามารถขยับ หรือเอื้อมง่ายที่สุด เพราะระยะพวงมาลัยที่ใช้จะช่วยผ่อนคลายอิริยาบท ระหว่างขับรถได้ดีเยี่ยมนั่นเอง

 

5. จับพวงมาลัยให้ถูกวิธี

ตำแหน่งที่ถูกต้องก็คือ 3 และ 9 นาฬิกาจะช่วยทำให้คุณหมุนพวงมาลัยได้ถนัด

และไม่หลุดมือ ช่วยลดอาการปวดเมื่อยช่วงหัวไหล่ และบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามลำตัวได้เป็นอย่างดี

 

6. อย่าลืมปรับหัวเบาะหรือหัวหมอน ปรับหมอนอยู่ในช่วงพอดีกับศีรษะของคุณ เพื่อลดแรงกระแทก และอาการบาดเจ็บต้นคอไม่ให้ลามไปยังหลังของคุณ ปรับหัวหมอนในอยู่กลางหลังของศีรษะ เพราะตำแหน่งนี้จะช่วยลดแรงกระเเทกได้ดีที่สุด

 

7. คาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกต้อง

ปรับเข็มขัดนิรภัยให้เหมาะสม แล้วพาดจากบริเวณไหปลาร้าลงมาที่สะโพกแนบกับกระดูกเชิงกราน จะช่วยลดการเคลื่อนไหวของร่างกาย กรณีเกิดอุบัติเหตุจะสามารถรองรับสรีระของคุณได้เป็นอย่างดี

 

8. ปรับกระจกมองข้างให้เห็นชัดเจนที่สุด ปรับกระจกเป็นมุมกว้าง โดยกระจกข้าง จะต้องตั้งฉากกับตัวรถ ระวังอย่าให้เห็นรถของคุณมากนัก เพราะอาจทำให้ไม่เห็นรถคันอื่น ส่วนกระจกมองหลัง ให้ปรับแบบตรงๆ เพื่อให้เห็นรถคันหลังที่กำลังขับตามมา พอหลังจากปรับกระจกรถแล้ว ร่างกายก็จะขยับตัวไปมองกระจกได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเอี้ยวตัว เอี้ยวคอไปมาระหว่างขับขี่ จะช่วยลดอาการปวดคอ และปวดหลังได้ดีทีเดียว แถมยังเพิ่มความปลอดภัยด้วย